ฟุตบอลโลกในรอบ 64 ปี วิเคราะห์บอล บ้านผลบอล ทีม “ มังกรแดง ” ทีมชาติเวลส์ สหราชอาณาจักร คว้าตั๋วไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มุ่งหน้าสู่กาตาร์ สร้างเซอร์ไพรส์ในบอลโลก
สารบัญ
วิเคราะห์บอล บ้านผลบอล เวลส์ กับเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกในรอบ 64 ปี
เวลส์ ทีมชาติมีความเก่าแก่ในภาคพื้นยุโรป ทีมวิเคราะห์บอล บ้านผลบอลโลก รู้จักเคยชินเป็นอย่างดี แม้ เวลส์ เป็นชาติที่มีสมาคมฟุตบอลเก่าแก่ เป็นอันดับที่ 3 ของโลก รวมถึงการสร้างแข้งระดับโลกมาประดับวงการมากพอสมควร แต่เวลส์ก็ถือเป็นชาติเล็ก ๆ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ เป็นรูปธรรมในวงการลูกหนังเลย
นับตั้งแต่ที่ได้ลงเล่นเกม นัดแรกในปี 1876 ทีม “ มังกรแดง ” เคยได้เข้าร่วม ทัวร์นาเม้นต์ระดับเมเจอร์รอบสุดท้ายแค่ 3 ครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรายการฟุตบอลโลกปี 1958 ที่มีสวีเดนเป็นเจ้าภาพ คือครั้งเดียวที่พวกเขา เคยเข้าร่วมการแข่งขัน และหลังจากนั้น ก็ไม่เคยผ่านเข้ามาเล่นในรายการระดับโลกได้เลย
อย่างไรก็ตาม การรอคอยของแฟนบอลชาวเวลส์ สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2022 เมื่อทีมภายใต้การดูแลของ โรเบิร์ต เพจ ได้เอาชนะยูเครน 1-0 ในรอบเพลย์ออฟ และคว้าตั๋วไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี
ด้วยเหตุนี้ จึงขอพาย้อนไปพบกับเรื่องราวของทีมเล็ก ๆ จากสหราชอาณาจักร ตั้งแต่การได้ไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรก และอุปสรรคความยากลำบาก ที่พวกเขาได้เผชิญหลังจากนั้น ก่อนที่จะได้ไปเล่นบอลโลกอีกครั้งใน 64 ปีต่อมา
เกือบไปบอลโลกสมัยแรก
เวลส์ ได้เริ่มก่อตั้งสมาคมฟุตบอล ขึ้นมาในปี 1876 พร้อมกับพัฒนาทีมร่วมกับอีก 3 ชาติ ในสหราชอาณาจักร ในรายการ บริติชโฮมแชมเปี้ยนส์ชิพ ในฤดูกาล 1883-1884 ซึ่งทำการแข่งขันกันยาวนาน ถึงฤดูกาล 1983-1984 โดยที่พวกเขา คว้าแชมป์ในรายการนี้ไปได้ถึง12 สมัย
จากนั้น ในปี 1910 พวกเขาก็กลายเป็นสมาชิก ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างฟีฟ่า และสมาคมฟุตบอลในสหราชอาณาจักรนั้น เต็มไปด้วยความยุ่งยาก วุ่นวาย และ 4 ชาติ ก็ได้เลือกถอนตัวจากฟีฟ่าในปี 1928 เนื่องจากมีข้อพิพาท เรื่องการจ่ายเงินให้กับผู้เล่นสมัครเล่น จึงส่งผลให้เวลส์ ไม่ได้เข้าร่วมฟุตบอลโลก 3 หนแรกเช่นกัน นับตั้งแต่ปี 1932
อย่างไรก็ตาม 4 ชาติจากสหราชอาณาจักร ก็ได้กลับมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของฟีฟ่าอีกครั้งในปี 1946 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง และหลังจากนั้นยุคทีม “มังกรแดง” ก็ถือกำเนิดขึ้น
ยุคทอง “มังกรแดง”
ในยุค1950 เวลส์เต็มไปด้วยดาวเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไอวอร์ ออลเชิร์ช, คลิฟฟ์ โจนส์, อัลฟ์ เชอร์วู้ด, แจ็ค เคลซี่ย์, เทรเวอร์ ฟอร์ด, เทอร์รี่ เมดวิน, รอนนี่ เบอร์เจสส์ หรือ จอห์น ชาร์ลส์
ทั้งหมดนี่คือผู้เล่นคนสำคัญ ที่พาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในปี1958 ที่สวีเดนเป็นเจ้าภาพ โดยในตอนนั้น มี จิมมี่ เมอร์ฟี่ เป็นผู้จัดการทีม
แต่สำหรับเส้นทางสู่บอลโลกของพวกเขา ดูไม่ปกติเท่าไหร่ เนื่องจากจบอันดับที่ 2 ในรอบคัดเลือก รองจากเช็กโกสโลวาเกีย ปัญหาการเมือง ระหว่างชาติจากเอเชีย และแอฟริกา ทำให้ตุรกี, อินโดนีเซีย และซูดาน ปฏิเสธที่จะลงเล่น ในรอบแบ่งกลุ่มที่พบกับอิสราเอล ส่งผลให้พวกเขาได้เป็นแชมป์กลุ่ม
การที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นบอลโลก แบบไม่เตะเลยแม้แต่นัดเดียว คงเป็นเรื่องประหลาดเกินจนไป ทำให้ฟีฟ่าเลือกทีม ที่จบรองแชมป์กลุ่มในยุโรป มาเตะเพลย์ออฟ ซึ่งแต่เดิมคือเบลเยี่ยม ก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมอีก ทำให้ทีม “มังกรแดง” ได้ส้มหล่น ก่อนที่พวกเขาจะเอาชนะ อิสราเอลไปได้ 2-0 คว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
เวลส์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับ สวีเดนเจ้าภาพ, ฮังการี และเม็กซิโก แต่คว้าผลเสมอมาได้ทั้ง 3 นัด ก็เพียงพอ ให้พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ ตามหลังไวกิ้ง ก่อนไปจบในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการไปพ่ายต่อบราซิลว่าที่แชมป์โลก จากประตูของ เปเล่ ที่มีวัยเพียง 17 ปีในตอนนั้น ก่อนที่ทีมจะเข้าสู่ยุคตกต่ำอย่างช้า ๆ
ความหวังใหม่
ความหวังสู่ทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ของแฟนบอลชาวเวลส์ก็ยังไม่จบสิ้น ปลายปี 2010 แกรี่ สปีด อดีตกองกลางของทีมในชุดดังกล่าว ได้เข้ามาคุมทีมต่อจากจอห์น โตแช็ค ด้วยเป้าหมายที่จะยุติ 52 ปี ที่พลาดเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์ระดับเมเจอร์ให้ได้
แน่นอนว่าชาติเล็ก ๆ จากสหราชอาณาจักร ก็ยังสร้างนักเตะขึ้นมาประดับวงการ ไม่ว่าจะเป็น อารอน แรมซี่ย์, แกเร็ธ เบล, โจ อัลเลน, นีล เทย์เลอร์ ในช่วงนั้น
สปีด เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม กับการพาทีมคว้าชัยชนะ 5 จาก10 นัดแรกที่คุม แต่ทว่าทุกอย่างก็หยุดชะงักลงอีกครั้ง เมื่ออดีตแข้ง ‘ยูงทอง’ เลือกจบชีวิตตัวเอง แบบสุดช็อกด้วยการแขวนคอในโรงรถ เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2011
เหตุการณ์นี้ ทำให้ทีมต้องไปเริ่มกันใหม่อีกครั้ง ก่อนจะได้ คริส โคลแมน เข้ามาสานต่อทีม ในช่วงต้นปี 2012 ซึ่งแม้พลาดไปเล่นบอลโลก ที่บราซิลในปี 2014 แต่ในยูโร 2016 รอบคัดเลือก ทีมก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนคว้าอันดับ 2 เข้ารอบสุดท้ายตามหลัง เบลเยี่ยม ซึ่งนอกจากจะได้เล่นในยูโรรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นการได้เล่นรายการเมเจอร์ครั้งแรก ในรอบ 58 ปีด้วย
ถึงจะเป็นหนแรก ในศึกใหญ่ระดับทวีป แต่ทัพ “ มังกรแดง ” ก็กลายเป็นม้ามืดในรายการทันที หลังผงาดจบแชมป์กลุ่มB เหนืออังกฤษที่เป็นตัวเต็ง และในรอบน็อคเอ้าท์ ก็ยังเฉือนชนะไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ในรอบ 16 ทีม ก่อนโชว์ฟอร์มเทพสุด ๆ ด้วยการชนะเบลเยี่ยม ตัวเต็งแชมป์ ถึง 3-1
แม้สุดท้ายจะไปพ่ายให้กับ โปรตุเกสว่าที่แชมป์ในรายการนั้น ในรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็ได้กลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติ เมื่อเดินทางกลับมาบ้านเกิด พร้อมได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ จากแฟน ๆ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
บอลโลกที่รอคอย
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้เวลส์ ตั้งเป้าจะไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ รัสเซีย ให้ได้ในปี 2018 แต่การพ่ายให้ไอร์แลนด์ในรอบคัดเลือก ทำให้ทีมจบแค่อันดับที่ 3 ก่อนที่ โคลแมนจะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปคุมซันเดอร์แลนด์ ในปี 2017
ไรอัน กิ๊กส์ ได้เข้ามารับช่วงต่อ หลังต้นปี 2018 แต่จากประเด็น การทำร้ายร่างกายแฟนสาว ทำให้เขาถูกสั่งพักงานทันที และสมาคมก็ดัน โรเบิร์ต เพจ ให้เข้ามาคุมทีมชั่วคราว ถึงแม้ไม่เคยมีประวัติคุมทีมชาติ หรือสโมสรระดับท็อปมาก่อน แต่เขาก็สามารถพาทีมทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการเลื่อนชั้นไปเล่นในลีกA ของยูฟ่าเนชั่นส์ลีก หรือในยูโร 2020 ที่พาทีมไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
นั่นทำให้ สมาคมยังไว้วางใจให้ เพจ ได้ทำหน้าที่นี้ต่อไปในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน จนพาทีมจบอันดับ 2 ในกลุ่มE และลุ้นตั๋วไปบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยการเพลย์ออฟ
ออสเตรีย คือคู่แข่งรายแรก ในรอบตัดเชือก ซึ่งทีมของ เพจ ก็เอาชนะมาได้ แบบไม่ยากเย็น ก่อนที่จะเตรียมพบกับยูเครน ในนัดชิงชนะเลิศ
ด้วยภาวะสงครามที่ถูกรัสเซียรุกราน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ยูเครน มุ่งมั่นทุ่มเท กับเกมนี้อย่างมาก และด้วยขุมกำลังที่มี ทำให้ทีมของโอเล็กซานเดอร์ เปตราคอฟ ดูเป็นต่อมากกว่าด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม มังกรแดง ที่รูปเกมดูเป็นรอง กลับเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน จาก เบล สตาร์เบอร์1 ของทีม ก่อนที่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ จะโชว์เซฟได้ถึง 9 ครั้งในเกมนั้น ช่วยให้ทีมคว้าชัยได้สำเร็จอย่างพลิกความคาดหมาย
ทำให้การรอคอยสิ้นสุดลงที่ 64 ปี เมื่อ เพจ กลายเป็นกุนซือคนแรก ที่พาเวลส์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกได้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1958
และครั้งสุดท้าย ที่ทีมจากสหราชอาณาจักร ได้เข้าไปเล่นบอลโลก แมนฯ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล ยังมีสถิติคว้าแชมป์ลีกได้เพียงทีมละ 5 สมัย เท่านั้น และทั้งโลกก็ยังไม่รู้จัก เปเล่ เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่มาสร้างชื่อในศึกใหญ่ที่สวีเดน ซึ่งนี่ก็คงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เวลาผ่านไปนานแค่ไหน
ทัพ “มังกรแดง” เตรียมตัวมุ่งหน้าสู่กาตาร์ ในปลายปีนี้ โดยได้อยู่กลุ่มเดียวกับอังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และอิหร่าน
และแน่นอนว่า พวกเขาก็ยังคงไม่ใช่ตัวเต็ง แต่จากสิ่งต่าง ๆ ที่ทีมแสดงให้เห็น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะศึกยูโร 2016 ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เวลส์ อาจจะเป็นหนึ่งในทีมม้ามด ที่สร้างเซอร์ไพรส์ในบอลโลกครั้งนี้ก็เป็นได้
ทีมวิเคราะห์บอล บ้านผลบอลโลก ร่วมวิเคราะห์บอลตลอดทัวร์นาเมนบอลโลก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เพื่อนสมาชิก ด้วยประสบการณ์ การอ่านขาด ทำให้เพื่อนสมาชิกมั่นใจในการวิเคราะห์ ร่วมสมัครสมาชิกเข้าร่วมมาอย่างคับคั่ง สนใจเดิมพัน สมัครได้เลยที่ : คาสิโนออนไลน์ โปรสมาชิกเก่า รับโบนัส 20% วิเคราะห์บอล บ้านผลบอล
